ทำความรู้จัก Data Breach: ภัยคุกคามข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ควรมองข้าม

เรามักเห็นข่าวองค์กรทั้งเล็กหรือใหญ่ ถูกโจมตีทางไซเบอร์ และการโจมตีนั้นก็มีหลากหลายวิธีพัฒนาตามยุคสมัย จนหลายองค์กรก็อาจจะตั้งรับไม่ทัน ทำให้ได้รับผลกระทบในหลายด้านๆ ไม่ว่าจะเป็นการถูกโจรกรรมข้อมูล การถูกละเมิดข้อมูล ทำให้องค์กรได้หลายความเสียหายทั้งการถูกฟ้องร้อง ชดเชยค่าเสียหาย และข้อมูลก็ไม่สามารถกู้คืนได้ 🚨

Data Breach คืออะไร?

Data Breach คือ เหตุการณ์ที่ข้อมูลส่วนบุคคล รั่วไหล สูญหาย หรือถูกขโมย โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจเกิดจากการโจมตีทางไซเบอร์ Human Error หรือระบบรักษาความปลอดภัยที่บกพร่อง

ประเภทของ Data Breach มีอะไรบ้าง ?

• ฟิชชิ่ง (Phishing) 🎣
การโจมตีแบบฟิชชิ่งมักเกี่ยวข้องกับอีเมลหรือข้อความที่หลอกลวง เพื่อให้ผู้รับเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญ เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัตรเครดิต หรือข้อมูลการเข้าสู่ระบบ การโจมตีเหล่านี้ใช้การหลอกลวงเพื่อเอาชนะความเชื่อใจและความไร้เดียงสาของคน
การโจมตีด้วยมัลแวร์ (Malware Attacks) 🦠
มัลแวร์ครอบคลุมการโจมตีทางซอฟต์แวร์หลายรูปแบบ เช่น ไวรัส แรนซัมแวร์ สปายแวร์ และโทรจัน ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแทรกซึมระบบ ขโมยข้อมูล หรือทำให้การดำเนินการหยุดชะงัก
การละเมิดทางกายภาพ (Physical Breaches) 🏢
การละเมิดทางกายภาพเกิดขึ้นเมื่อเซิร์ฟเวอร์ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลที่มีข้อมูลสำคัญถูกขโมย อาจเกิดขึ้นจากการโจรกรรม การเข้าไปในที่ต้องห้าม หรือการทิ้งอุปกรณ์โดยไม่ลบข้อมูลอย่างถูกต้อง
ภัยคุกคามจากภายใน (Insider Threats) 👥
ภัยคุกคามจากภายในเกี่ยวข้องกับบุคคลภายในองค์กรที่ใช้สิทธิ์การเข้าถึงของพวกเขาในทางที่ผิด โดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการละเมิดข้อมูล เช่น พนักงานที่ขโมยหรือรั่วไหลข้อมูลที่สำคัญ หรือการตกเป็นเหยื่อของการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่นำไปสู่การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
การเดารหัสผ่าน (Password Guessing) 🔑
ผู้โจมตีจะเข้าถึงบัญชีผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยพยายามใช้ชุดของรหัสผ่านต่างๆ เพื่อค้นหารหัสที่ถูกต้อง
แรนซัมแวร์ (Ransomware) 💸
แรนซัมแวร์เป็นซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายซึ่งเข้ารหัสไฟล์หรือบล็อกการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ เมื่ออุปกรณ์หรือเครือข่ายถูกติดไวรัส ไฟล์ของเหยื่อจะไม่สามารถเข้าถึงได้ จากนั้นผู้โจมตีจะเรียกร้องค่าไถ่เพื่อคืนระบบให้ใช้งานได้
การโจมตี DDoS (DDoS Attack) 🌐
การโจมตีแบบ Distributed Denial of Service (DDoS) มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายเครือข่ายคอมพิวเตอร์โดยการทำให้ระบบล้นไปด้วยทราฟฟิกที่เข้ามา ทำให้ระบบไม่สามารถตอบสนองต่อคำขอที่ถูกต้องได้ ซึ่งอาจทำให้ระบบช้าลงหรือหยุดทำงาน

Data Breach เกิดขึ้นได้อย่างไร ?

Research : แฮกเกอร์จะรวบรวมข้อมูลและหาข่าวสารเกี่ยวกับเป้าหมายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกเขาจะระบุช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้น รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับระบบของเป้าหมาย หรือทำการโจมตีแบบฟิชชิ่ง(Phishing) เพื่อรวบรวมข้อมูลที่มีค่า
• Attack : ผู้โจมตีจะเข้าแทรกซึมระบบหรือเครือข่ายขององค์กรเป้าหมาย พวกเขาอาจใช้วิธีต่างๆ เช่น การใช้ช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ การโจมตีแบบฟิชชิ่ง การแคร็กพาสเวิร์ดที่อ่อนแอ และการขโมยข้อมูลการเข้าสู่ระบบ
Compromise data : เมื่อผู้โจมตีเข้าไปยังระบบที่ถูกแทรกซึมแล้ว พวกเขาอาจใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อขโมยและดึงข้อมูลที่มีค่า จากนั้น ผู้โจมตีอาจใช้ข้อมูลนั้นในทางที่ผิด เช่น การขายข้อมูลในดาร์กเว็บ การโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว การฉ้อโกงทางการเงิน หรือการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับที่อาจทำลายบุคคลหรือองค์กร

วิธีการป้องกันการละเมิดข้อมูลจาก Data Breach สำหรับองค์กรและตัวคุณเอง

การรับมือสำหรับองค์กร 🏢

⚙️ อัปเดตระบบและเครือข่ายให้พร้อม (Patch systems and networks accordingly.)
ผู้ดูแลระบบ IT ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบทั้งหมดในเครือข่ายได้รับการอัปเดตและแก้ไข เพื่อป้องกันผู้โจมตีจากการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับการอัปเดตหรือเป็นรุ่นเก่า
📚 ให้ความรู้และบังคับใช้มาตรการ (Educate and enforce)
แจ้งเตือนพนักงานเกี่ยวกับภัยคุกคาม ฝึกอบรมให้พวกเขาระวังการโจมตีที่ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคม และแนะนำหรือบังคับใช้แนวทางในการจัดการกับภัยคุกคามหากพบเจอ
🔐 นำมาตรการรักษาความปลอดภัยมาใช้ (Implement security measures)
สร้างกระบวนการในการระบุช่องโหว่และจัดการกับภัยคุกคามในเครือข่ายของคุณ ตรวจสอบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอและตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายของบริษัทมีความปลอดภัย
🛡️ สร้างแผนสำรอง (Create contingencies)
จัดทำแผนการกู้คืนจากภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพ ในกรณีที่เกิดการละเมิดข้อมูล ลดความสับสนด้วยการเตรียมบุคคลติดต่อ กลยุทธ์การเปิดเผยข้อมูล ขั้นตอนการแก้ไขจริง และอื่นๆ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานของคุณรับทราบแผนนี้เพื่อการเคลื่อนไหวที่เหมาะสมเมื่อพบการละเมิดข้อมูล

การรับมือสำหรับตัวคุณเอง 🛡️

🌐 ระวังสิ่งที่แชร์บนโซเชียลมีเดีย
อย่าเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป หากเป็นไปได้ อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากนักในโปรไฟล์ของคุณ
💻 ป้องกันอุปกรณ์ของคุณทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อป อุปกรณ์มือถือ หรืออุปกรณ์สวมใส่ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับการป้องกันด้วยซอฟต์แวร์ความปลอดภัย
ที่อัปเดตอยู่เสมอ
🔐 ใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่งและไม่ซ้ำกัน
รหัสผ่านควรมีความยาวอย่างน้อย 12 ตัวอักษร ประกอบด้วยตัวอักษรใหญ่ ตัวอักษรเล็ก ตัวเลข และสัญลักษณ์พิเศษ และอย่าลืมใช้รหัสผ่านที่แตกต่างกันในแต่ละบัญชี
📱 เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA)
การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอนจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีของคุณ โดยต้องยืนยันตัวตนผ่านอุปกรณ์อื่น เช่น โทรศัพท์มือถือ นอกจากรหัสผ่านปกติ
✉️ อย่าเปิดอีเมลจากผู้ส่งที่ไม่รู้จัก
หากสงสัย ให้ลบอีเมลที่ดูน่าสงสัยโดยไม่ต้องเปิด พยายามตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ส่งและเนื้อหาของอีเมลก่อนเปิดไฟล์แนบใดๆ

เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของเรา อย่าลืมระมัดระวังและป้องกันตัวเองจากการละเมิดข้อมูล หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านค่ะ 💜

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *